ไอดอลสาวไต้หวัน "Snowbaby" หรือ ไช่รุ่ยเสวี่ย (蔡瑞雪) นักร้องและเน็ตไอดอลที่เป็นที่รู้จักในวงการบันเทิงไต้หวัน เผยเรื่องราวสุดภาคภูมิใจในรากเหง้าของเธอผ่านโพสต์ใน Instagram ล่าสุด โดยในโพสต์ดังกล่าวเธอสวมชุดชนเผ่าพื้นเมืองของชาวไผวันและบอกเล่าความรู้สึกที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับสายเลือดผสมของตนที่มีทั้งเชื้อสายอุซเบกิสถานและทิเบต ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เธอภูมิใจมาก
"Snowbaby" เปิดเผยว่าแม่ของเธอเป็นลูกครึ่งชาวอุซเบกและชาวทิเบต ซึ่งทำให้เธอมีสายเลือดที่มีความหลากหลายจากทั้งเอเชียกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ แม้ว่าเธอจะไม่เคยได้เหยียบแผ่นดินทิเบต แต่ความรู้สึกผูกพันกับแผ่นดินแห่งที่ราบสูงนั้นยังคงฝังแน่นในใจของเธอเสมอ เธอเล่าให้ฟังว่าแม้ไม่มีโอกาสได้ไปเยือนทิเบตด้วยตัวเอง แต่คำบอกเล่าจากแม่และผู้เฒ่าในครอบครัวช่วยหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของเธอให้รู้สึกถึงแผ่นดินนั้น
ในการถ่ายภาพชุดชนเผ่าพื้นเมืองของชาวไผวัน Snowbaby ได้เรียนรู้การร่ายรำแบบชนเผ่าพื้นเมือง พร้อมทั้งสะท้อนถึงลวดลายและสัญลักษณ์ในชุดที่เปรียบเสมือนภาษาทางจิตวิญญาณที่ส่งสารถึงเธออย่างลึกซึ้ง โดยเธอเขียนถึงทิเบตว่า "มีตะเกียงเนยที่ไม่มีวันดับ มีเสียงคำภาวนาจากกงล้อมนตรา มีหิมะขาวโพลนเงียบงัน และธงมนต์หลายสีปลิวไสวแทนคำอธิษฐาน"
นอกจากนี้ Snowbaby ยังเปรียบเทียบ "ภูเขาทางใต้" และ "ภูเขาหิมะทางเหนือ" ที่เป็นทั้งสัญลักษณ์ของความเชื่อและความรักในสองแผ่นดินที่มีความสำคัญต่อจิตใจของเธอ ทั้งนี้ยังได้กล่าวขอบคุณทีมงานถ่ายทำและผู้กำกับที่ให้โอกาสเธอได้เข้าใกล้ธรรมชาติและสื่อความรู้สึกที่เธอซ่อนเอาไว้อย่างลึกซึ้ง
ในโพสต์ดังกล่าว Snowbaby ยังได้สะท้อนความทรงจำและความภาคภูมิใจในบรรพบุรุษ โดยเธอรู้สึกว่าแม้จะอยู่ไกลจากแผ่นดินแม่ แต่จิตวิญญาณของเธอกลับยังคงผูกพันกับวัฒนธรรมและประเพณีของชนเผ่าที่เป็นรากเหง้าของตนเองเสมอ
การเปิดเผยเรื่องราวในครั้งนี้ของ "Snowbaby" เป็นการสะท้อนถึงความภาคภูมิใจในสายเลือดที่หลากหลายของเธอและการรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญอย่างยิ่ง พร้อมกับการแสดงออกถึงความรักและความเคารพต่อชนเผ่าพื้นเมืองและทิเบตในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอเอง