(28 พฤษภาคม 2568) นพ.พงศ์ธร ชาติพิทักษ์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในประเทศไทยยังคงน่าห่วง โดยเฉพาะใน จ.มหาสารคาม ที่รายงานพบผู้ป่วยสูงถึง 443 รายในปี 2568 ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยของประเทศ แต่สะท้อนถึงแนวโน้มที่ยังต้องจับตา
ข้อมูลจากเว็บไซต์ HIV INFO HUB ของกองโรคเอดส์ฯ ระบุว่า ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และไวรัสตับอักเสบบี-ซี ได้อย่างโปร่งใส พร้อมแนะนำให้ทุกคนตรวจสอบข้อมูลรายจังหวัดเพื่อรับรู้สถานการณ์ในพื้นที่ตนเอง และเตรียมป้องกันอย่างเหมาะสม
นพ.พงศ์ธร ชี้ว่า อัตราการสวมถุงยางอนามัยในกลุ่มวัยรุ่นลดลงอย่างน่าตกใจ ส่งผลให้โรคติดต่อ เช่น เอชไอวี ซิฟิลิส และหนองใน กลับมาระบาดอีกครั้ง โดยเฉพาะซิฟิลิสและหนองในที่มีอัตราผู้ป่วยพุ่งสูงกว่า 6 เท่าในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
แม้การติดเชื้อเอชไอวีในปัจจุบันสามารถควบคุมได้ด้วยการรับประทานยาต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดโอกาสแพร่เชื้อเกือบเป็นศูนย์ แต่ยังมีผู้ติดเชื้อบางกลุ่มที่ไม่เข้าสู่ระบบการรักษา ส่งผลให้ยังคงมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง
5 จังหวัดที่พบแนวโน้มผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มสูง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา และมหาสารคาม ซึ่งถือเป็นพื้นที่ต้องเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการป้องกัน โดยเฉพาะการใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่เพียงเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ยังเพื่อหยุดยั้งการแพร่เชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย
หน่วยงานสาธารณสุขขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนให้ตระหนักถึงความเสี่ยงจากพฤติกรรมไม่ปลอดภัย พร้อมรณรงค์ส่งเสริมการใช้ถุงยางในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะวัยรุ่นซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสุดในขณะนี้ เพื่อร่วมกันหยุดยั้งการแพร่ระบาดที่กำลังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของประเทศ