ต้นหอม หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า "ผักโรยหน้า" มักถูกมองข้ามเพียงเพราะเป็นเครื่องแต่งหน้าจานอาหารให้ดูน่ารับประทาน แต่ความจริงแล้วผักชนิดนี้มีคุณค่าทางโภชนาการที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะในด้าน การป้องกันโรคมะเร็ง ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ ล่าสุดจากรายการสุขภาพชื่อดังของไต้หวัน “ชีวิตดีและสุขภาพดี” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่าง ดร.เจียง โซ่วซาน ได้เปิดเผยว่า ต้นหอมคือหนึ่งใน “ผักราคาหลักสิบบาท” ที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.เจียง ยกกรณีศึกษาของชายชาวไต้หวันวัย 51 ปี ผู้ป่วยมะเร็งหลอดอาหารระยะที่ 2 จากพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เขามีปัญหาจากเคมีบำบัดที่ส่งผลกระทบต่อไต แต่เมื่อเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการกินโดยหันมาบริโภคต้นหอมเป็นประจำ ผลปรากฏว่า สุขภาพของเขาดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงเวลา 7 ปีที่มะเร็งไม่กลับมาอีกเลย
ต้นหอมอุดมด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิด เช่น วิตามิน K, A, C, โฟเลต, เควอซิทิน และฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติ ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งหลายประเภท เช่น มะเร็งช่องปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ยังมีสาร อัลลิซิน (Allicin) ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย HP ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการของมะเร็งกระเพาะอาหาร
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย และมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นของจีน ยังยืนยันว่า ผักกลุ่มหัว เช่น ต้นหอม หอมใหญ่ กระเทียม และกุยช่าย ล้วนมีสารฟลาโวนอยด์และซัลเฟอร์สูง ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง พร้อมกับเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายผ่านสารซีลีเนียมและวิตามิน C ที่ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
แม้ต้นหอมจะเต็มไปด้วยประโยชน์ แต่ ดร.เจียง เตือนว่า ไม่ควรปรุงจนสุกเกินไป เพราะอาจทำลายคุณค่าทางอาหาร และควรบริโภคในปริมาณพอเหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง เช่น กลิ่นปาก ทั้งนี้ ยังสามารถเสริมสุขภาพด้วยผักและสมุนไพรอื่น ๆ ที่มีสารต้านอักเสบ เช่น ขมิ้น กระเทียม ขิง และพริก ซึ่งล้วนมีบทบาทในการช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้เช่นกัน
ต้นหอมจึงไม่ใช่แค่ผักโรยหน้าอีกต่อไป หากแต่เป็น “ผักราคาหลักสิบที่มีคุณค่าหลักล้าน” โดยเฉพาะในยุคที่โรคร้ายอย่างมะเร็งกำลังคุกคามคนทั่วโลก การเลือกอาหารที่มีคุณค่าจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการดูแลสุขภาพที่แท้จริง