ในระบอบเผด็จการที่เข้มงวดของเกาหลีเหนือ ภายใต้การนำของ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของประเทศ มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ผิดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีการเปิดเผยจากผู้แปรพักตร์ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของชนชั้นสูงในรัฐบาลเกาหลีเหนือ ซึ่งได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำที่โหดร้ายและการบังคับให้ชมการประหารชีวิตในระบอบนี้
จากการเปิดเผยของ ฮียอนลิม ผู้หญิงวัย 26 ปีที่เป็นลูกสาวของนายทหารระดับสูงในรัฐบาลเกาหลีเหนือ เธอเล่าว่าผู้นำคิมจองอึน บังคับให้ชนชั้นสูงของประเทศต้องมาชมการประหารชีวิตนักโทษ โดยในบางกรณีผู้ถูกประหารเป็นนักดนตรีที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการผลิตวิดีโอลามก ซึ่งถูกประหารด้วยปืนกลต่อต้านอากาศยาน ต่อหน้าประชาชนจำนวนมากถึง 10,000 คน
ฮียอนลิมเล่าว่าในเหตุการณ์หนึ่ง นักดนตรี 11 คนถูกมัดมือเท้าและถูกยิงต่อหน้าผู้ชมในสนามกีฬาในกรุงเปียงยาง หลังจากนั้นร่างของพวกเขาถูกทับซ้ำด้วยรถถังหลายครั้ง ขณะที่เธอเองก็ต้องยืนห่างจากจุดประหารเพียงแค่ 60 เมตรเท่านั้น
การกระทำดังกล่าวสะท้อนถึงการใช้อำนาจในทางที่ผิดของคิมจองอึน ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การข่มขู่และทำร้ายประชาชนทั่วไป แต่ยังรวมถึงการบังคับให้ชนชั้นสูงต้องเห็นความโหดร้ายนี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยจากผู้แปรพักตร์อีกคนหนึ่งคือ ฮัก มิน ซึ่งได้แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการล้างสมองและการควบคุมความคิดของประชาชนในเกาหลีเหนือ เขากล่าวว่าในระบอบของคิมจองอึน ทุกคนต้องยอมรับการสอดส่องจากรัฐบาล โดยระบอบนี้จะคอยจับตามองความคิดของประชาชนทุกคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่ปลอดภัยในการแสดงความคิดที่ต่างออกไป
แม้ว่าผู้แปรพักตร์เหล่านี้จะช่วยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความโหดร้ายในเกาหลีเหนือ แต่จำนวนผู้หลบหนีในช่วงปีที่ผ่านมาได้ลดลงอย่างน่าเป็นห่วง โดยรายงานจากเกาหลีใต้ระบุว่า จำนวนผู้หลบหนีจากเกาหลีเหนือในปี 2017 ลดลงถึง 12.7% เมื่อเทียบกับปี 2016
การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้จากผู้แปรพักตร์เป็นการสะท้อนถึงการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ในระบอบเผด็จการของคิมจองอึน ซึ่งต้องการให้โลกเห็นถึงความโหดร้ายและการใช้อำนาจที่เกินขีดจำกัดในประเทศเกาหลีเหนือ