ราชกิจจานุเบกษาได้ประกาศกฎกระทรวงฉบับใหม่ ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลและเบนซิน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (10 พฤษภาคม 2568) เป็นต้นไป ภายใต้กฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 42) พ.ศ.2568 รัฐบาลได้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 เพื่อทบทวนอัตราภาษีใหม่ให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน
การปรับขึ้นภาษีในครั้งนี้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์น้ำมันหลายชนิด โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซล เช่น เบนซิน 95 เพิ่มขึ้นจาก 6.50 บาทเป็น 7.50 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซล H-Diesel เพิ่มขึ้นจาก 5.99 บาทเป็น 6.92 บาทต่อลิตร นอกจากนี้ยังมีการปรับขึ้นในน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10, E20 และ E85 ตามลำดับ
รัฐให้เหตุผลว่า การขึ้นภาษีในช่วงเวลานี้สอดคล้องกับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง จึงถือโอกาสเพิ่มภาษีในช่วงที่ต้นทุนการผลิตของผู้ค้าน้ำมันต่ำลง โดยหวังว่าจะไม่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคาขายปลีกหน้าปั๊มน้ำมัน
ภาษีท้องถิ่นก็มีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เช่น ภาษีเบนซินเพิ่มจาก 0.65 บาทเป็น 0.75 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดเก็บรายได้ภาครัฐ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลังและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
มาตรการนี้จะช่วยให้รัฐบาลมีงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อใช้ในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ และรับมือกับความผันผวนในตลาดโลก ทั้งยังสะท้อนถึงความพยายามในการปรับโครงสร้างภาษีให้ทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ผู้บริโภคควรติดตามราคาน้ำมันหน้าปั๊มอย่างใกล้ชิดในช่วงสัปดาห์นี้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงภาษีดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกอย่างมีนัยสำคัญในบางพื้นที่